แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้เปิดเผยถึงความพยายามในอดีตของเชลซีที่จะเซ็นสัญญากับ จู๊ด เบลลิงแฮม ขณะที่เขายังอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการทีม แต่ถูกผู้บริหารของสโมสรปฏิเสธที่จะจ่ายค่าตัวตามที่ เบอร์มิงแฮม ต้องการในขณะนั้น ดาวรุ่งผู้ที่ต่อมาย้ายไปดอร์ทมุนด์ด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ในปี 2020 และต่อมาย้ายไปเรอัล มาดริดด้วยค่าตัวสูงลิ่ว ในฤดูกาลนี้ เบลลิงแฮมได้พิสูจน์ฝีเท้าของเขาด้วยผลงานการทำประตู และมีความเป็นไปได้ว่าเส้นทางของเขาอาจเป็นอย่างไรหากเขาได้ย้ายไปเชลซีตามที่แลมพาร์ดต้องการในขณะนั้น
การเปิดเผยของแลมพาร์ดนำเรากลับไปยังช่วงเวลาที่เชลซีมีโอกาสเซ็นสัญญากับหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดในฟุตบอลโลก ณ ตอนนั้น แลมพาร์ด ซึ่งเคยนำทีมสิงห์บลูส์ในช่วงเวลาที่ทีมต้องเผชิญกับการแบนซื้อผู้เล่นและมีข้อจำกัดในการใช้จ่าย ได้ตั้งเป้าหมายไปที่เบลลิงแฮม ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงดาวรุ่งที่มีศักยภาพอยู่กับ เบอร์มิงแฮม
ความเชื่อมั่นของแลมพาร์ดในความสามารถของ เบลลิงแฮม อาจจะชี้ชะตาทิศทางอาชีพของนักเตะได้ แต่การที่ผู้บริหารของเชลซีไม่ยอมจ่ายตามที่ เบอร์มิงแฮม ต้องการ ทำให้โอกาสนั้นหลุดลอยไป สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวที่ความจริงสำหรับแลมพาร์ดและเชลซีเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราว ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับเบลลิงแฮมด้วย ถ้าเขาได้รับโอกาสในการเล่นให้กับหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพรีเมียร์ลีกในตอนนั้น
เบลลิงแฮม ตอนนี้เป็นหนึ่งในนักเตะที่สโมสรใหญ่ๆ ทั่วยุโรปต้องการตัว และด้วยการย้ายไปเรอัล มาดริด เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลกอย่างแท้จริง การเปิดเผยของแลมพาร์ดเป็นเพียงการยืนยันว่าเบลลิงแฮมเป็นนักเตะที่มีความสามารถสูงและมีศักยภาพในการเป็นดาวเด่นในเวทีโลกตั้งแต่เนิ่นๆ ในขณะที่เชลซีอาจจะพลาดโอกาสในครั้งนั้น